top of page

ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง

ปุ๋ยอินทรีย์ กทม. ใช้บำรุงดิน เพิ่มผลผลิต มีทั้งชนิดผง อัดเม็ด และชนิดปั้นเม็ด จากโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงจาก Food Watse ​ด้วยเทคโนโลยีจากประเทศออสเตรีย และมีกำลังการผลิตที่มากที่สุดในโลก

ปุ๋ยอินทรีย์.jpg

​​ลักษณะเด่น

  • ปุ๋ยอินทรีย์แท้ 100% โดยที่ไม่มีส่วนผสมของดิน

  • มีธาตุอาหารหลัก 13 ธาตุ ธาตุอาหารรองเสริมครบถ้วน 

  • มีราคาถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพปุ๋ยที่ได้รับ 

  • เพิ่มผลผลิตพิชิตกรดลดต้นทุนการผลิต 

  • ป้องกันโรคพืช 

  • ฟื้นฟูธรรมชาติและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม 

  • สามารถใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีรดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

บรรจุอยู่ในกระสอบน้ำหนักกระสอบละ 40 กิโลกรัม

ปุ๋ยในกระสอบ.jpg

กระบวนการผลิต

มีการคัดแยกขยะและวัตถุดิบที่จะนำไปทำเป็นเป็นปุ๋ยอินทรีย์ออกจากกัน  โดยใช้ผสมผสานกันทั้งสองระบบคือระบบมือและระบบเครื่องจักร โดยโดยระบบมือจะเป็นการคัดแยกแบบหยาบ ระบบเครื่องจักรจะเป็นการคัดแยกอย่างละเอียด

มีระบบการหมักปุ๋ยอินทรีย์ที่ สมบูรณ์ถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยมีระบบควบคุมลมและอุณหภูมิให้อยู่ประมาณไม่เกิน 70 องศาเซลเซียส โดยจะใช้เวลาในการหมักอยู่ที่ 40 ถึง 45 วัน ซึ่งหากเป็นการหมักปุ๋ยอินทรีย์โดยทั่วไปซึ่งไม่ได้มีการควบคุม ลมและอุณหภูมิเป็นพิเศษ ระยะเวลาในการหมักปุ๋ยอินทรีย์จะต้องใช้เวลาในการหมักอย่างน้อย 80 ถึง 120 วันแล้วแล้วแต่สภาพอากาศและอุณหภูมิ

โรงงาน มีกำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน วัตถุดิบที่นำมาทำปุ๋ยอินทรีย์กทม. อุดมด้วยธาตุอาหารต่างๆมากมายด้วยเศษอาหารจากคนรับประทานเช่นเศษเนื้อสัตว์เศษผักผลไม้ เป็นต้น

กระบวนการผลิด.png

โดยสรุป ปุ๋ยอินทรีย์กทม. ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามหลักวิชาการทุกขั้นตอนโดยมีการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐานระดับสูง  มีระบบควบคุมลมและอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อกระบวนการย่อยสลายของปุ๋ยอินทรีย์มีการกับกองปุ๋ยตามระยะเวลาอันเหมาะสมเพื่อให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์กทม. ที่มีคุณภาพสูงที่สุด

ลักษณะผลิตภัณฑ์

ปุ๋ยอินทรีย์กทม. เป็นปุ๋ยหมักชนิดหนึ่งที่ผลิตจากเศษวัสดุอินทรีย์เหลือใช้ได้แก่พืชผักผลไม้และเนื้อสัตว์ วัสดุอินทรีย์ที่มีส่วนประกอบของ เซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส และอื่นๆ โดยที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กและเปื่อยยุ้ยเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 40 วัน  ในกระบวนการหมักปุ๋ยอินทรีย์จึงสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงปรับปรุงโครงสร้างของดิน  บำรุงดินและช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในท้ายที่สุด

 

ผลวิเคราะห์ปุ๋ยอินทรีย์กทม. มีค่า ดังต่อไปนี้

1. ค่าพีเอชของปุ๋ยอินทรีย์กทม. อยู่ที่ประมาณ 6 ถึง 7.5

2. ค่าอินทรีย์วัตถุ OM ของปุ๋ยอินทรีย์กทม. อยู่ที่ประมาณ 40 ถึง 55%

3. ค่า C/N Ratio อยู่ที่ต่ำกว่า 20/1 ในทุกครั้งการตรวจ

table.png

คุณสมบัติ

ช่วยปรับปรุงคุณภาพทางกายภาพและทางเคมีของดินช่วยเพิ่มอินทรีย์วัตถุออร์แกนิค Matter และแร่ธาตุอาหารแก่ดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ปุ๋ยอินทรีย์กทม.  จึงจัดเป็นปุ๋ยที่มีคุณสมบัติในการส่งเสริมการได้รับธาตุอาหารแก่พืชและช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ ฮิวมัสแก่ดิน เป็นสิ่งจำเป็นมากในการปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดินร่วนซุย ไม่อัดตัวกันแน่น อุ้มน้ำ และช่วยยึดเกาะธาตุอาหารไว้ให้พืช ทั้งยังมีส่วนช่วยระบายน้ำและอากาศได้ดี

คุณสมบัติ.png

ลักษณะเด่น

  • ปุ๋ยอินทรีย์แท้ 100% โดยที่ไม่มีส่วนผสมของดิน

  • มีธาตุอาหารหลักรองเสริมครบถ้วน 

  • มีราคาถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพปุ๋ยที่ได้รับ 

  • เพิ่มผลผลิตพิชิตกรดลดต้นทุนการผลิต 

  • ป้องกันโรคพืช 

  • ฟื้นฟูธรรมชาติและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม 

  • สามารถใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีรดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

ลักษณะเด่น.png

ปุ๋ยอินทรีย์กทม. บำรุงดินเพิ่มผลผลิต

  1. เพิ่มอินทรีย์วัตถุ  คือจะช่วยให้ดินเหนียวร่วนซุยยิ่งขึ้น ดินทรายอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ช่วยซับน้ำและธาตุอาหารในดินไว้ให้พืชใช้ตลอดทั้งปี

  2. เพิ่มประสิทธิภาพของพืชโดยการให้อาหารหลักและธาตุอาหารรองจากดิน

  3. รักษาสภาพปฏิกิริยาทางเคมีของดินไม่ให้เปลี่ยนแปลงง่าย โดยเฉพาะปุ๋ยหมักจะมีปฏิกิริยากรดอ่อนซึ่งพืชต้องการ

  4. ทำให้สะดวกต่อการไถพรวนและเตรียมดิน

  5. รักษาคงสภาพและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน

ตารางปริมาณธาตุอาหารโดยประมาณ

ตาราง2.png

ปุ๋ยอินทรีย์กทม. เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

  1. ปุ๋ยอินทรีย์กทม. เป็นปุ๋ยอินทรีย์แท้ 100% ไม่มีการผสมดินกรวดหรือทราย สังเกตสังเกตได้จากน้ำหนักของปุ๋ยอินทรีย์กทม. ทั้งเบาและฟูซึ่งเป็นคุณสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์แท้

  2. มีธาตุอาหารครบ ทั้ง 13 ธาตุ ทั้งธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรอง

  3. มีอินทรียวัตถุสูง ปุ๋ยอินทรีย์กทม. มีอินทรีย์วัตถุประมาณ 50% หากมีอินทรีย์วัตถุมากแสดงว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพสูง

  4. มีความเป็นกลางคือมีค่าพีเอชอยู่ประมาณ 7 ซึ่งจะช่วยในการปรับปรุงดินที่เป็นกรดให้มีความเป็นกลางมากขึ้น

  5. ใช้ระบบการหมักที่ได้มาตรฐาน และมีการควบคุมคุณภาพตลอดการหมัก

  6. ราคาถูกกว่าปุ๋ยอินทรีย์ตามท้องตลาดทั่วไป นับเป็นโอกาสดีของเกษตรกรที่สามารถเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีอินทรีย์วัตถุสูงในราคาไม่แพง

bottom of page